
ตั้งเป้าหมายอย่างไร ให้รอดใน 6 เดือนแรกของการทำธุรกิจส่วนตัว
การเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวไม่ใช่เรื่องง่าย และ 6 เดือนแรกถือเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ที่ยังไม่แน่นอน ต้นทุนที่สูงกว่าที่คิด หรือความไม่พร้อมในหลายด้านที่ค่อย ๆ แสดงตัวเมื่อเริ่มลงมือจริง
สิ่งหนึ่งที่จะช่วยพยุงธุรกิจให้อยู่รอดในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้ คือ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริง การวางกรอบความคิดและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม สำหรับเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ที่อยากเดินต่อได้อย่างมั่นคงตั้งแต่เดือนแรก

ทำไม 6 เดือนแรกจึงสำคัญมาก
ช่วงเวลา 6 เดือนแรกของการทำธุรกิจคือช่วงที่คุณต้อง “เรียนรู้จริง” จากสิ่งที่เคยวางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกค้า รายได้ การตลาด หรือแม้แต่เรื่องจิตใจของตัวเองที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนตลอดเวลา
ถ้าธุรกิจอยู่รอดได้ในช่วงเวลานี้ โอกาสในการเติบโตจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากวางแผนพลาดตั้งแต่แรก อาจทำให้หมดแรงกลางทางหรือหมดทุนก่อนที่ธุรกิจจะเริ่มเดินได้จริง
ตั้งเป้าหมายอย่างไร ให้มีโอกาสรอดสูงที่สุด
การตั้งเป้าหมายในช่วงแรกไม่ควรตั้งเพื่อ “ความฝัน” อย่างเดียว แต่ต้องตั้งเป้าให้ตอบโจทย์ “ความอยู่รอด” ด้วย นี่คือหลักการที่ควรคำนึงถึง
1. ตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ (Measurable Goals)
ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย จำนวนลูกค้า หรือจำนวนคำสั่งซื้อ ต้องกำหนดเป็นตัวเลขที่วัดผลได้จริง เช่น
- ต้องการมียอดขายเดือนละ 30,000 บาทภายในเดือนที่ 3
- ต้องหาลูกค้าใหม่อย่างน้อย 20 รายภายใน 6 เดือน
- ต้องมีกำไรหลังหักต้นทุนเฉลี่ย 20% ตั้งแต่เดือนที่ 4
การตั้งเป้าชัดแบบนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าแต่ละเดือนใกล้เป้าหมายหรือยัง และต้องปรับอะไรเพิ่มเติม
2. แบ่งเป้าหมายออกเป็นระยะสั้น – กลาง – ยาว
เป้าหมายระยะสั้นช่วยให้เห็นผลเร็วและมีกำลังใจ เช่น
- ระยะสั้น (1–2 เดือน): เปิดร้าน / เปิดเพจ / สร้างสินค้าให้พร้อมขาย
- ระยะกลาง (3–4 เดือน): เริ่มมีลูกค้าแรก / ทำโปรโมชั่น / เก็บรีวิว
- ระยะยาว (5–6 เดือน): มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ / เริ่มคืนทุนบางส่วน
การแบ่งเป้าแบบนี้จะช่วยจัดลำดับความสำคัญและประเมินความคืบหน้าได้อย่างชัดเจน
3. อย่าตั้งเป้าหมายแบบ “หมดตัวไม่ได้”
เจ้าของธุรกิจใหม่มักตั้งเป้าหมายแบบไม่มีแผนสำรอง เช่น “ต้องขายได้เท่านี้ภายในเดือนที่สอง ถ้าไม่ได้คือจบ” ซึ่งอันตรายมาก
คุณควรวางเป้าแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีงบสำรองสำหรับปรับตัว เช่น
ถ้ายังไม่ถึงเป้า ต้องมีแผน B เช่น ลดต้นทุน เปลี่ยนช่องทางขาย หรือหาแหล่งรายได้เสริม

สิ่งที่ควรโฟกัสใน 6 เดือนแรก
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว คุณควรจัดลำดับความสำคัญ ไม่ใช่ทำทุกอย่างพร้อมกัน เพราะจะทำให้เหนื่อยและพลาดได้ง่าย สิ่งที่ควรให้ความสำคัญมีดังนี้:
● สร้างรายได้ให้เร็วที่สุด
อย่ามัวแต่เตรียมตัวจนเกินเหตุ พยายามหาวิธี “เริ่มขาย” ให้ได้เร็ว เช่น
- เปิดพรีออเดอร์
- รับงานแบบทดลองราคา
- ทำแคมเปญสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักก่อน
รายได้แม้ยังไม่มาก แต่จะช่วยให้คุณเริ่มหมุนเงิน และเรียนรู้ตลาดจริงได้เร็ว
● รู้ต้นทุนทุกบาท
ไม่ใช่แค่ต้นทุนสินค้า แต่รวมถึงต้นทุนซ่อนเร้น เช่น ค่าขนส่ง ค่าการตลาด ค่าเครื่องมือ ค่าชั่วโมงทำงานของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ต้องรู้ให้ละเอียดตั้งแต่เดือนแรก เพื่อไม่ให้ขาดทุนแบบไม่รู้ตัว
● สร้างฐานลูกค้าเริ่มต้น
ลูกค้าชุดแรกคือกลุ่มที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นคนให้รีวิว บอกต่อ และอาจซื้อซ้ำ
คุณควรตั้งเป้าให้ได้ลูกค้า “กลุ่มจริง” (ไม่ใช่แค่เพื่อน) ตั้งแต่เดือนที่ 1–2 และสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
● ทดสอบและเก็บข้อมูล
ธุรกิจเริ่มต้นไม่มีสูตรตายตัว การทดลองคือหัวใจสำคัญ เช่น
- ทดลองหลายช่องทางการขาย
- ทดลองราคาหรือแพ็กเกจ
- ทดลองวิธีโปรโมต เช่น ยิงแอด / อินฟลูเอนเซอร์ / ไลฟ์สด
ทุกอย่างควรเก็บข้อมูลไว้ เพื่อใช้ตัดสินใจต่อยอดในเดือนที่ 4–6

ความผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
● ลงทุนก้อนใหญ่โดยยังไม่พิสูจน์ตลาด
การทุ่มทุนสร้างร้าน สต๊อกของเยอะ หรือซื้ออุปกรณ์ราคาแพงก่อนรู้ว่าตลาดตอบรับจริงหรือไม่ เป็นความเสี่ยงที่ทำให้ธุรกิจพังเร็วมาก
ทางที่ดีควรเริ่มจากการทดลองเล็ก ๆ แล้วค่อยขยายตามผลลัพธ์
● คิดว่าทำคนเดียวได้ทุกอย่าง
ธุรกิจเริ่มต้นอาจต้องทำเองหลายอย่างก็จริง แต่หากฝืนทำทุกอย่างจนไม่มีเวลาพัฒนา กลยุทธ์ระยะยาวจะชะงัก แนะนำให้เลือกจ้างบางงาน เช่น กราฟิก / ยิงแอด / ขนส่ง เพื่อให้มีเวลาคิดเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
● เปรียบเทียบกับคนอื่นเร็วเกินไป
ธุรกิจแต่ละแบบมีเส้นทางที่ไม่เหมือนกัน การมัวแต่ดูว่า “คนอื่นขายได้เยอะกว่า” โดยไม่ดูบริบท จะทำให้คุณกดดันและหมดแรง ควรเปรียบเทียบกับ “เป้าหมายของตัวเอง” และใช้ข้อมูลคนอื่นเป็นแนวทางเท่านั้น
ตั้งระบบคิดที่ช่วยพาธุรกิจรอด
ในช่วง 6 เดือนแรก ระบบความคิดสำคัญไม่แพ้การวางแผน เพราะเจ้าของธุรกิจจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอด เพราะการตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจรอดใน 6 เดือนแรก ไม่ได้หมายถึงการวิ่งหาเงินอย่างเดียว แต่คือการจัดระบบความคิด วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน และใช้ทรัพยากรที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่จำเป็นต้องสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ภายในเวลาสั้น ๆ
แต่ถ้าคุณวางเป้าหมายที่วัดผลได้ และพาธุรกิจผ่าน 6 เดือนแรกมาได้ คุณจะมีรากฐานที่มั่นคงพอสำหรับการเติบโตในระยะยาวอย่างแท้จริง