พลาสติกใส PVC อุปกรณ์การเกษตร คุณสมบัติ แหล่งซื้อสินค้า

พลาสติกใสพีวีซี เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม และกำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในภาคการเกษตร ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทำให้เกษตรกรสามารถประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และปกป้องผลผลิตได้เป็นอย่างดี บทความนี้จะรีวิวการใช้งานพลาสติกใส PVC พร้อมแนะนำการประยุกต์ใช้ในไร่นาอย่างสร้างสรรค์

คุณสมบัติพลาสติกใส PVC

พลาสติกใส PVC ถูกเลือกใช้ในงานเกษตรอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากพลาสติกชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติต่อไปนี้

การใช้งานพลาสติกใส PVC ในการเกษตร

พลาสติกใส PVC ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในงานเกษตรหลายด้าน ตั้งแต่การจัดการน้ำไปจนถึงการปกป้องพืชผล

A. การสร้างโรงเรือนเพาะชำและเรือนปลูกพืช

การใช้งานที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการนำมาใช้เป็นวัสดุมุงหลังคาและผนังโรงเรือน เนื่องจากมีความใสสูง ทำให้แสงแดดเข้าถึงพืชได้อย่างเต็มที่ และคุณสมบัติการเป็นฉนวนยังช่วยกักเก็บความร้อนในเวลากลางคืน ลดความเสี่ยงจากน้ำค้างแข็งหรืออุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแมลงและศัตรูพืชไม่ให้เข้าถึงแปลงปลูกได้โดยตรง

B. การปูบ่อและอ่างเก็บน้ำ

พลาสติก PVC ชนิดอ่อนนุ่ม (Flexible PVC) ที่มีความหนาตั้งแต่ 0.50 มิลลิเมตรขึ้นไป ถูกใช้เป็นวัสดุปูบ่อสำหรับกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร หรือใช้ในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น บ่อปลา บ่อกุ้ง เนื่องจาก PVC มีความยืดหยุ่น เหนียว ไม่รั่วซึมง่าย และทนทานต่อแรงกดทับจากน้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่ซึมลงดิน และช่วยรักษาคุณภาพน้ำในบ่อ

C. วัสดุคลุมดินเพื่อควบคุมอุณหภูมิ

ถึงแม้ว่าพลาสติกคลุมดินส่วนใหญ่จะเป็นชนิดสีดำหรือสีเงิน แต่พลาสติกใส PVC ก็สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การอบดินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solarization) โดยการปูพลาสติกใสคลุมหน้าดินในวันที่แดดจัด ความใสของ PVC จะทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ถูกกักเก็บไว้ในดินอย่างเข้มข้น เพื่อฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา และวัชพืชที่อยู่ในดินได้

D. บรรจุภัณฑ์และถุงสำหรับการขนส่ง

พลาสติกใส PVC ชนิดบางและเหนียวพิเศษยังถูกนำไปใช้ผลิตถุงบรรจุสินค้าเกษตร หรือถุงสำหรับขนส่งสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง เพื่อลดความเครียดและการสูญเสียระหว่างการเดินทาง เนื่องจากคุณสมบัติที่ทนทานต่อการฉีกขาด และความใสที่ช่วยให้ตรวจสอบสินค้าได้ง่าย

สำหรับการใช้งานจริง

เพื่อให้พลาสติกใส PVC ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน เกษตรกรควรพิจารณาและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1. เลือกความหนาให้เหมาะสมกับงาน
   • งานโรงเรือนและหลังคา ควรเลือก PVC ที่มีความหนาปานกลางถึงหนา (เช่น 0.20 มม. ขึ้นไป) เพื่อเพิ่มความทนทานต่อลมและแสงแดดจัด โดยเฉพาะรุ่นที่ผสมสารป้องกัน UV (UV Stabilized)
   • งานปูบ่อ ควรเลือกความหนาที่ 0.50 มม. ถึง 1.00 มม. ขึ้นไป เพื่อความแข็งแรงและป้องกันการรั่วซึมจากของมีคมใต้ดิน
2. การติดตั้งและการยึดติด
   • สำหรับการคลุมโรงเรือน ควรขึงให้ตึงเพื่อลดการกระพือของพลาสติกเมื่อโดนลม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการฉีกขาด
   • บริเวณรอยต่อหรือขอบที่ต้องยึดกับโครงสร้าง ควรใช้วัสดุยึดที่มีพื้นผิวเรียบหรือมีแผ่นรองเสริม เพื่อไม่ให้วัสดุยึด (เช่น ตะปู หรือสกรู) เจาะทะลุหรือทำให้พลาสติกเสียหาย
3. การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา
   • ควรทำความสะอาดฝุ่นและคราบสกปรกบนหลังคาโรงเรือนเป็นระยะ เพื่อรักษาความใสและให้แสงส่องผ่านได้อย่างเต็มที่
   • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เนื่องจากอาจทำลายพื้นผิวของ PVC ได้
4. ข้อควรระวังเรื่องรอยขีดข่วน
   • พลาสติกใส PVC อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าพลาสติกชนิดอื่น (เช่น โพลีคาร์บอเนต) จึงควรระมัดระวังในการติดตั้งและทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง

พลาสติกใส PVC เป็นวัสดุที่คุ้มค่าต่อการลงทุนสำหรับภาคการเกษตรยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติด้านความใส ความทนทาน และความสามารถในการกักเก็บความชื้นและความร้อน ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่การปกป้องพืชผล การจัดการแหล่งน้ำ ไปจนถึงการเพิ่มคุณภาพของผลผลิต เกษตรกรที่เลือกใช้และดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากวัสดุนี้ได้อย่างเต็มที่

แหล่งซื้อสินค้า : https://packingstory.com/product/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AA-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2/